ยินดีต้อนรับสู่ เว็บบล็อก pharmacybefriends

อยากคุย อยากรู้เรื่องยา อาหารเสริม สุขภาพ โพสต์ไว้ได้เลยนะครับ

Monday, June 14, 2010

จำเป็นมั้ยที่จะต้องทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร???

ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก็พอแล้ว มักจะเป็นคำกล่าวที่เราๆท่านๆได้ยินอยู่เสมอ ซึ่งข้อความตรงนี้ถูกต้อง ถ้าเราทำได้ วันนี้เราลองมามองลงไปให้ลึกอีกสักนิดละกัน ลึกจากคำว่า ทานให้ครบ 5 หมู่
ลองถามตัวเองดูหน่อยว่า
1.ทานอาหารครบทุกชนิดหรือไม่
2.แล้วทานได้ครบตามที่ร่างกายต้องการหรือไม่
ถ้าคำตอบที่ได้ มีคำว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ น่าจะครบ หรืออื่นๆ ก็ถือว่าวันนี้ทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่นะครับ จริงๆแล้วไม่ว่าใครก็ตามในโลกนี้ น้อยคนนักที่จะทานอาหารได้ครบตามที่ร่างกายต้องการได้จริงๆ แต่แค่ให้ลองได้คิดดู ถามตัวเองดูว่าเป็นยังไง วันนี้ต่อให้ไปหาคุณหมอ แล้วคุณหมอบอกให้ทานอาหารครบ 5 หมู่พอ ไม่ต้องทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็ได้ ผมแนะนำลองถามคุณหมอว่าทานอะไรบ้างใน 1 วัน แล้วทานครบมั้ย ถ้าคุณหมอบอกว่าครบ ให้คุณรีบทานตามคุณหมอเลยครับ อิอิ ตรงนี้พูดเล่นนะครับ จริงๆแล้วเราทุกคน ถ้าเป็นไปได้ก็ควรที่จะทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อเป็นตัวรับประกันว่าเราได้สารอาหารที่ร่างกายต้องการแล้วระดับนึง ในทุกๆชนิดที่ร่างกายต้องการ โดยเราสามารถดูได้จากค่า RDA หรือ DRI แล้วเราก็สามารถทานอาหารได้ตามปกติ เพื่อรับบางส่วนที่อาจไม่ครบในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จริงๆแล้วยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะเลย แต่วันนี้แค่ให้รู้ก่อนว่าควรทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือไม่

Tuesday, June 8, 2010

Rx7 ยา่ฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะ(Antibiotic) ไม่กินต่อเนื่องกันได้มั้ย??

ยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) ทำหน้าที่ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ที่ท่านๆผู้อ่านรู้จักกันดีก็ยาเพนนิซิลลิน หรือยาห้าแสน ก็คือตัวนี้นี่เอง โดยปกติยากลุ่มนี้จะใช้กรณีที่ติดเชื้อเท่านั้น และต้องทานต่อเนื่องนาน 5-7 วันเป็นขั้นต่ำ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับลักษณะอาการของโรคและการติดเชื้อ ซึ่งเมื่อมีการติดเชื้อกรณีที่ไม่รุนแรง ร่างกายเราเองก็สามารถฆ่าเชื้อได้ ซึ่งอาจทำให้แผลหายเองได้ แต่ในกรณีที่มีการติดเชื้อโดยมากแล้วร่างกายจะสู้ได้ระดับหนึ่ง เราต้องช่วยจากด้านนอกด้วยก็คือการกินยาหรือฉีดยา แต่ต้องเข้าใจว่า ยาที่เข้าไปณจุดติดเชื้อมีระดับนึง ไม่ใช่กินยาเข้าไป 1 เม็ด ยาทั้งเม็ดจะวิ่งไปถึงจุดที่ออกฤทธิ์ทั้งหมด แต่มียาส่วนที่ถูฏทำลายไปด้วย แพร่ไปจุดอื่นที่ไม่ติดเชื้อด้วย สมมติเชื้อ 100 ตัว เรากินยาเข้าไปวันแรก อาจจะฆ่าเชื้อได้เยอะหน่อย สัก 40-50 เปอเซนต์อาการเราก็จะเริ่มดีขึ้นบ้าง แต่เชื้อก็ยังเหลืออีก 50 เปอเซนต์ เชื้อมันก็มีกลไกที่จะปกป้่องตัวเองโดยพยายามทำลายยาหรือไม่รับยาเข้ามาในตัวของมัน และยังแบ่งขยายพันธ์ตัวมันเอง และแบคทีเรียไม่ใช่คน เวลามันขยายจำนวน มันแบ่งเป็นทวีคูณ แปปเดียวก็อาจจะกลับมาเท่าเดิมอีก ยาที่เรากินเข้าไปก็เพื่อลดจำนวนพวกที่กำลังแบ่งเซลล์ และฆ่าพวกเซลล์ใหม่ด้วย แต่เชื้อมันไม่ได้มีเท่าเดิม ยาที่ใส่เข้าไปตัวที่ออกฤทธิ์ก็หมดหน้าที่ของมัน เราจึงจำเป็นต้องทานยาต่อเนื่องเพื่อให้จำนวนเชื้อที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่เม็ดเลือดขาวหรือร่างกายเราจะกำจัดได้ ยาปฏิชีวนะทุกตัวจะมีฆ่า IC90 คือฆ่าเชื้อได้ 90 เปอเซนต์ที่เหลืออีก 10 เปอเซนต์ร่างกายเราฆ่า ในมุนกลับกันลองมองดูก็ได้ว่าสมมติเรากินยาไป 2 วันแล้วอาการดีขึ้น สมมตินะครับว่าเชื้อเหลือสัก 10 ตัว แล้ว10 ตัวนี้พัฒนาตัวเองจนยาที่เรากินไม่สามารถฆ่ามันได้ แล้วเราก็ปล่อยมันไว้ มันก็ขยายเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆจนกลับมาเป็นอีกรอบทีนี้ ยาตัวเดิมที่กินไปก็ไม่สามารถฆ่าได้ ทำให้เชื้อทำลายเซลล์ของเราไปเรื่อยๆ พวกบริษัทยาจึงวิจัยว่าทานยากี่วันขึงจะทำให้เชื้อเหลือ 0 ซึ่งโดยทั่วไปขนาดปกติก็ต้องทาน 5-7 วันขึ้นไปจึงจะหมด อย่าแค่รู้สึกว่าหายแล้วไม่ทานต่อ รอจนกระทั่งเชื้อโรคไม่มียาสามารถฆ่าได้ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นก็คงต้องทำใจอย่างเดียว